วงปี่พาทย์ คำว่า "ปี่พาทย์" หมายถึงการประสมวงที่มีปี่ และเครื่องเคาะ (ตี) ร่วมด้วย สมัยสุโขทัยได้เริ่มมี "วงปี่พาทย์เครื่องห้า" ขึ้นมาก่อน โดยใช้เครื่องดนตรี 5 ชิ้น คือ ปี่ ตะโพน ฆ้อง กลอง ฉิ่ง ต่อมาได้มีวิวัฒนาการมาเป็นลำดับจนเจริญถึงขีดสุดในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมีการเพิ่มระนาดเข้าไปในภายหลัง
วงปี่พาทย์ในปัจจุบันแบ่งออกได้ 7 แบบ ตามการจัดกลุ่มเครื่องดนตรีดังนี้
ปี่พาทย์ชาตรี ประกอบด้วย
- ปี่นอก
- ฆ้องคู่
- โทนชาตรี,
- กลองชาตรี
- ฉิ่ง
- กรับ
- ปี่ใน
- ฆ้องวงใหญ่
- ระนาด
- ตะโพน
- กลองทัด
- ฉิ่ง
- ปีใน
- ปี่นอก
- ฆ้องวงใหญ่
- ฆ้องวงเล็ก
- ระนาดเอก
- ระนาดทุ้ม
- ตะโพน
- กลองทัด
- ฉิ่ง
- ฉาบ
- กรับ
- โหม่ง
- ปีใน
- ปี่นอก
- ฆ้องวงใหญ่
- ฆ้องวงเล็ก
- ระนาดเอก
- ระนาดทุ้ม
- ระนาดเหล็ก
- ระนาดทุ้มเหล็ก
- ตะโพน
- กลองทัด
- ฉิ่ง
- ฉาบ
- กรับ
- โหม่ง
ปี่พาทย์นางหงส์ ประกอบด้วย
- ปี่ชวา
- ฆ้องวงใหญ่
- ฆ้องวงเล็ก
- ระนาดเอก
- ระนาดทุ้ม
- กลองมลายู
- ฉิ่ง
- ขลุ่ยเพียงออ
- ขลุ่ยอู้
- ฆ้องวงใหญ่
- ฆ้องหุ่ย
- ระนาดเอ
- ระนาดทุ้ม
- ระนาดทุ้มเหล็ก
- ซออู้
- ตะโพน
- กลองตะโพน
- กลองแขก
- ฉิ่ง
- ปี่มอญ
- ฆ้องมอญ
- ระนาด
- เปิงมางคอก
- ตะโพนมอญ
- โหม่งมอญ
- ฉิ่ง
- ฉาบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น